Pulse Valve Selection (การเลือกใช้วาล์วยิงลมให้แหมาะสม)
Pulse Valve Selection (การเลือกใช้วาล์วยิงลมให้แหมาะสม)
|
จากการทดลองโดยการใช้วาล์วยิงลม (Pulse Jet Valve) TURBO PULSE VALVE ขนาด 2" TF055P (FP55) โดยมีการติดตั้งจำนวนถุงกรองไว้ทั้งหมด 16 ถุงกรอง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ กรณี A ทำการติดตั้งถงกรอง 16 ใบ บนท่อยิงลม (Air Tube) ขนาด 2" แต่แบ่งท่อยิงลม (Air Nozzle) ออกเป็น 3 ขนาด 10.3mm 9.5mm และ 8.3mm ตามลำดับ กรณี B ทำการติดตั้งถงกรอง 16 ใบ บนท่อยิงลม (Air Tube) ขนาด 2" แต่แบ่งท่อยิงลม (Air Nozzle) เป็นขนาด 12mm เท่ากันทั้งแถว โดยควบคุมแรงดัน = 5 บาร์ และได้วัดแรงดันภายในถุงกรองทุกถุงกรองพบว่า Nozle ที่ใหญ่กว่า สามารถสร้างแดงดันได้สูงกว่า Nozzle ขนาดเล็ก และจะเห็นได้ได้ว่า เมื่อถึงถุงกรองที่ 12 แรงดันภายในถุงกรองลดลงอย่างมีนัยยะ ดังนั้นทางบริษัทผู้ผลิต จึงแนะนำให้ติกตั้งถุงกรองต่อ 1 แถว ไม่เกิน 10-11 ถุงกรอง เผื่อประสิทธิภาพสูงสุด |
การเลือกขนาดวาล์วยิงลม (Pulse Jet Valve) ให้เหมาะสมต่อพื้นที่การกรองเบื้องต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภาพนอกหลายอย่าง ทั้งการคำนวนค่า A/C Ratio (air to cloth ratio) ขนาดของอนุภาคที่ใช้กรอง เคมี ความเหนียว ความหนาแน่นของอนุภาคฝุ่น ดังนั้น ตารางด้านล่างนี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการเลือกขนาดวาล์ว โดยทั้งหมดพิจารณาที่แรงดัน 6 บาร์ โดยที่ Pulse Valve ขนาด 3/4" เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 6-8 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) Pulse Valve ขนาด 1" เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 8-12 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) Pulse Valve ขนาด 1 1/2 เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 12-22 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) Pulse Valve ขนาด 2" เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 22-36 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) Pulse Valve ขนาด 2 1/2" เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 36-42 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) Pulse Valve ขนาด 3" เหมาะสมกับพื้นที่การกรอง 42-45 ตารางเมตร (ต่อ 1 แถว) |